การ์ตูน Anime ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554
Ponyo
เป็นภาพยนตร์ การ์ตูน Anime เรื่องใหม่ล่าสุดของสุดยอด ผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ ภายใต้การผลิตของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ค่ายผลิตภาพยนตร์การ์ตูนคุณภาพของโลก ในประเทศญี่ปุ่น มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนญี่ปุ่นในยุคราว ค.ศ. 1956 เปิดตัวครั้งแรก ในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 และครั้งแรก วันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
Ponyo on the Cliff by the Sea โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย ในปี 2009 โปเนียว ชนะเลิศ ห้ารางวัล จากงานมอบรางวัล Tokyo Anime Awards ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รับรางวัล Japan Academy Prize for Animation of the Year (รางวัล Anime of The Year 2009) และยังได้รับการ กล่าวถึงเป็นพิเศษ ในงานเทศกาลภาพยนต์ Venice International Future Film ในด้าน ศิลปะภาพ คุณภาพงาน Anime ที่มี ความงดงามเหนือจินตนาการ
เนื้อเรื่อง : โซสุเกะเด็กชายวัย 5 ขวบอาศัยอยู่บ้านอยู่บนหน้าผาริมทะเล ได้พบลูกปลาทองตัวน้อย ทีหัวติดอยู่ในขวบแยม โซสุเกะจึงช้วยดึงเธอออกมา โปเนียวจึงรอดตายอย่างหวุดหวิดและเธอก็ชอบ โซสุเกะมาก และโซสุเกะก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่แล้ว ฟุจิโมโตะ พ่อของโปเนียวก็มาพาเธอกลับลงทะเล
ถึงแม้ว่าจะถูกนำตัวกลับมาบ้าน แต่โปเนียวก็อยากกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง เพื่อพบกับโซสุเกะ จึงได้ไปแอบขโมยเวทย์มนตร์ ของพ่อของเธอมา เพื่อใช้กลับไปยังโลกมนุษย์ แต่สิ่งที่เธอทำลงไปกลับทำให้ ทั่วท้องทะเลปั่นป่วน ซ้ำร้ายยังเดือดร้อนมาถึงเมืองที โซสุเกะอาศัยอยู่ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ระหว่างเด็กชายและเด็กหญิง…
Ponyo on the Cliff by the Sea โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย ในปี 2009 โปเนียว ชนะเลิศ ห้ารางวัล จากงานมอบรางวัล Tokyo Anime Awards ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รับรางวัล Japan Academy Prize for Animation of the Year (รางวัล Anime of The Year 2009) และยังได้รับการ กล่าวถึงเป็นพิเศษ ในงานเทศกาลภาพยนต์ Venice International Future Film ในด้าน ศิลปะภาพ คุณภาพงาน Anime ที่มี ความงดงามเหนือจินตนาการ
เนื้อเรื่อง : โซสุเกะเด็กชายวัย 5 ขวบอาศัยอยู่บ้านอยู่บนหน้าผาริมทะเล ได้พบลูกปลาทองตัวน้อย ทีหัวติดอยู่ในขวบแยม โซสุเกะจึงช้วยดึงเธอออกมา โปเนียวจึงรอดตายอย่างหวุดหวิดและเธอก็ชอบ โซสุเกะมาก และโซสุเกะก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่แล้ว ฟุจิโมโตะ พ่อของโปเนียวก็มาพาเธอกลับลงทะเล
ถึงแม้ว่าจะถูกนำตัวกลับมาบ้าน แต่โปเนียวก็อยากกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง เพื่อพบกับโซสุเกะ จึงได้ไปแอบขโมยเวทย์มนตร์ ของพ่อของเธอมา เพื่อใช้กลับไปยังโลกมนุษย์ แต่สิ่งที่เธอทำลงไปกลับทำให้ ทั่วท้องทะเลปั่นป่วน ซ้ำร้ายยังเดือดร้อนมาถึงเมืองที โซสุเกะอาศัยอยู่ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ระหว่างเด็กชายและเด็กหญิง…
Gurren Lagann
หนังการ์ตูนเรื่อง Tengen Toppa Gurren Lagann หรือ ชื่อ ภาษาไทย คือ อภินิหารหุ่นทะลวงสวรรค์ กุเร็นลากันน์ เป็น การ์ตูนญี่ปุ่น Anime แนว หุ่นยนตร์รบ แอกชั่น ผจญภัย Animetion เรื่องนี้ สร้างโดยสตูดิโอ Gainax อำนวยการผลิต โดย Aniplex และ Konami เป็น ทีวี อนิเมชั่น มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 27 ตอน ออกฉายทางโทรทัศน์ ที่ ประเทศญี่ปุ่น ช่วงเวลา ระหว่าง วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2007 ถึง วันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2007
Gurren Lagann ในปี ค.ศ.2008 Anime เรื่องนี้ ชนะเลิศรางวัลมากมาย ของ Anime การ์ตูนญี่ปุ่น ในหลายๆ ที่ เช่น ที่ The Animation Kobe 12th โดย ผู้กำกับ เรื่องนี้คือ Hiroyuki Imaishi ได้รับรางวัล ผู้กำกับ บุคคลยอดเยี่ยม “Personal Best”
Tokyo International Anime Fair (งานเทศกาล การ์ตูน อนิเมะ ที่ใหญ่ที่สุดจัดขึ้นปีละครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น) ชนะเลิศ รางวัล ทีวี Anime ยอดเยี่ยมปี 2008 “Best Television Production” และ รางวัล ออกแบบ ตัวละคร คาแรกเตอร์ การ์ตูนยอดเยี่ยม “Best Character Design” ผู้ออกแบบตัวละคร คือ Atsushi Nishigori
เรื่องราวเรื่องนี้ กล่าวถึงอนาคต อีกหลายร้อยปี ข้างหน้าที่ห่างไกล ที่มนุษย์ละทิ้ง วิถีชีวิตวัฒนธรรม แบบเดิมๆ อพยพถิ่นฐานลงมาอาศัยอยู่ข้างใต้พิภพ ในใต้ดิน นานแสนนาน โดย ขุดอุโมงเป็นโพลงขนาดใหญ่ สร้างหมู่บ้าน ที่อยู่อาศัย สร้างบ้านเรือนมีเขตแดนขนาดใหญ่ โดยไม่สนใจ บนพื้นพิภพ อีกต่อไป จนเรื่องราวกับเกี่ยวกับพื้นพิภพค่อยๆ ถูกมนุษย์ลืมเลือนหายไป จนแถบหมดสิ้น
จิฮะ ชิม่อน เด็กหนุ่ม นักขุดดิน ที่ใช้ดำเนินชีวิตแต่ละวัน เพื่อ ขุดและขุด ได้ค้นพบหัวสว่างอันเล็กที่ส่องแสงประหลาดเข้า
ชิม่อน นั้นเชื่อว่า เหนือหมู่บ้าน ที่เขาตัวเองอาศัยอยู่นั้น มี “พื้นพิภพที่มีท้องฟ้าสีคราม” ซึ่งเขาตั้งใจมุ่งมั่นว่าซักวันจะ ขึ้นไปบนพื้นดิน ซึ้งแม้คนในหมู่บ้านจะหาว่า เพ้อฝัน ก็ตามที
และแล้ว ก็เกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดเพดานของหมู่บ้าน พังถล่มลงมา หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่เรียกกันว่า “กันเม็น” ได้หล่นลงมา อาละวาดทำลายหมู่บ้าน เพื่อจะปกป้ิองหมู่บ้าน และ พวกพ้อง ชิม่อน จึงได้ บังขับหุ่นยนต์ที่เขาพบเข้าโดยบัญเอิญ นำออกมาต่อสู้กับพวก กันเม็น และ นี่คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราว…
Gurren Lagann ในปี ค.ศ.2008 Anime เรื่องนี้ ชนะเลิศรางวัลมากมาย ของ Anime การ์ตูนญี่ปุ่น ในหลายๆ ที่ เช่น ที่ The Animation Kobe 12th โดย ผู้กำกับ เรื่องนี้คือ Hiroyuki Imaishi ได้รับรางวัล ผู้กำกับ บุคคลยอดเยี่ยม “Personal Best”
Tokyo International Anime Fair (งานเทศกาล การ์ตูน อนิเมะ ที่ใหญ่ที่สุดจัดขึ้นปีละครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น) ชนะเลิศ รางวัล ทีวี Anime ยอดเยี่ยมปี 2008 “Best Television Production” และ รางวัล ออกแบบ ตัวละคร คาแรกเตอร์ การ์ตูนยอดเยี่ยม “Best Character Design” ผู้ออกแบบตัวละคร คือ Atsushi Nishigori
เรื่องราวเรื่องนี้ กล่าวถึงอนาคต อีกหลายร้อยปี ข้างหน้าที่ห่างไกล ที่มนุษย์ละทิ้ง วิถีชีวิตวัฒนธรรม แบบเดิมๆ อพยพถิ่นฐานลงมาอาศัยอยู่ข้างใต้พิภพ ในใต้ดิน นานแสนนาน โดย ขุดอุโมงเป็นโพลงขนาดใหญ่ สร้างหมู่บ้าน ที่อยู่อาศัย สร้างบ้านเรือนมีเขตแดนขนาดใหญ่ โดยไม่สนใจ บนพื้นพิภพ อีกต่อไป จนเรื่องราวกับเกี่ยวกับพื้นพิภพค่อยๆ ถูกมนุษย์ลืมเลือนหายไป จนแถบหมดสิ้น
จิฮะ ชิม่อน เด็กหนุ่ม นักขุดดิน ที่ใช้ดำเนินชีวิตแต่ละวัน เพื่อ ขุดและขุด ได้ค้นพบหัวสว่างอันเล็กที่ส่องแสงประหลาดเข้า
ชิม่อน นั้นเชื่อว่า เหนือหมู่บ้าน ที่เขาตัวเองอาศัยอยู่นั้น มี “พื้นพิภพที่มีท้องฟ้าสีคราม” ซึ่งเขาตั้งใจมุ่งมั่นว่าซักวันจะ ขึ้นไปบนพื้นดิน ซึ้งแม้คนในหมู่บ้านจะหาว่า เพ้อฝัน ก็ตามที
และแล้ว ก็เกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดเพดานของหมู่บ้าน พังถล่มลงมา หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่เรียกกันว่า “กันเม็น” ได้หล่นลงมา อาละวาดทำลายหมู่บ้าน เพื่อจะปกป้ิองหมู่บ้าน และ พวกพ้อง ชิม่อน จึงได้ บังขับหุ่นยนต์ที่เขาพบเข้าโดยบัญเอิญ นำออกมาต่อสู้กับพวก กันเม็น และ นี่คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราว…
Death Note
เดธโน้ต Deathnote สมุดโน้ตปีศาจ หนังการ์ตูน อนิเมชั่น การ์ตูนญี่ปุ่น แนวประเภท ลึกลับ, สืบสวน ,หักเหลี่ยม, เฉือนคม โดยเป็น การ์ตูนมังงะ จำนวน 12 เล่มจบ ผู้แต่ง ทสึงุมิ โอบะ (เนื้อเรื่อง) ทาเคชิ โอบาตะ (ภาพ) สร้างเป็น การ์ตูน Anime (อนิเมะ) จำนวนตอนทั้งหมด 37 ตอนจบ และ เดธโน้ตได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์คนจริงแสดง ซึ่งสร้างโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์ส โดยแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือภาคแรก ในชื่อ 1.สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ และภาพที่สองในชื่อ 2.อวสานสมุดมรณะฉบับอนิเมของเดธโน้ตนั้น เริ่มฉายวันที่ 3 ตุลาคม ปี 2006 ทางช่อง Nippon Television Network ทุกวันพุธ เวลา 00:56 น.โดยมีกำหนดฉายทั้งหมด 37 ตอน เนื้อเรื่องใน Anime นั้นก็คล้ายและใกล้เคียงกับฉบับหนังสือการ์ตูนมากกว่าใน ฉบับภาพยนตร์ทีใช้คนจริงแสดง แต่ต่างกันตรงที่ เวลาในอนิเมจะเป็นปี 2007 ต่างจากฉบับหนังสือการ์ตูนซึ่งเป็นปี 2003 แถมตอนจบของอนิเมนั้นก็จัดว่าโอเคเมื่อเทียบกับสองเวอร์ชั่นที่เหลือเดธโน้ตก็ได้รับลิขสิทธิ์ฉายที่อเมริกาโดยบริษัท VIZ Media โดยผ่านการดาวน์โหลดอย่างถูกกฎหมาย 2 แบบคือ Download-to-Own และ Download-to-Rent นับเป็นหนัง การ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องแรกที่เปิดบริการให้ดาวน์โหลดแบบถูกกฏหมายนอกประเทศ ในขณะที่เรื่องดังกล่าวนั้นยังฉายอยู่ในญี่ปุ่นอีกด้วย
หนัง อนิเมะ เดธโน้ตจะเป็นการ์ตูนที่มาแรงที่สุดเรื่องหนึ่งในญี่ปุ่น และ ทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แหวกแนว ไม่เหมือนใคร แถมประเด็นในเนื้อเรื่องที่ชวนขบคิด (จนน่าปวดหัว) ก็เลยทำให้เดธโน้ตเป็นการ์ตูนฮิตในหมู่วัยรุ่น และการมาของฉบับภาพยนตร์อนิเมชั่นก็ทำให้กระแสเรื่องนี้แรงขึ้นไปอีก ถึงขนาดบางคนที่ปกติไม่ค่อยสนใจการ์ตูน กลับถามหารวมเล่มหนังสือการ์ตูน มังงะของเดธโน้ตเลยก็มีลึกลับ, สืบสวน ,หักเหลี่ยม, เฉือนคม ส่วนหนึ่งที่หลายคนชอบภาพยนตร์ การ์ตูนเดธโน้ตก็มาจากการที่ เดธโน้ต นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นแนวบู๊ ปล่อยพลัง เหมือนหลายๆเรื่องในโชเน็นจัมป์ แต่กลับเน้นการต่อสู้โดยใช้สติปัญญาไหวพริบของทั้ง2ฝ่าย ซึ่งห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ แถมอุดมการณ์ความถูกต้องก็ยังต่างกัน โดยไลท์มีแนวคิดที่ว่า จะต้องกำจัดคนชั่วให้หมดไปจากโลกนี้ เพื่อจะให้โลกใบนี้มีความสุขที่แท้จริง
ไลท์จึงทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เป็นโลกอุดมคติ และ เป็นพระเจ้าคนใหม่ของโลกนี้ โดยไม่คำนึงถึงต่อบาปบุญคุณโทษที่ตนเอง ได้ฆ่าคน แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนชั่ว และเพื่อให้ความฝันของไลท์เป็นจริง ไลท์จึงจำเป็นต้องกำจัดคนที่คิดจะเข้ามาขัดขวางแผนการของตนด้วย แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนดีก็ตามซึ่งจุดนี้แหละก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่คาแร็คเตอร์ของตัวละครที่ชื่อ ยางามิ ไลท์ น่าสนใจมาก เพราะ ถึงจะมองภายนอกว่า ไลท์เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี เรียนเก่ง แต่ส่วนลึกในจิตใจนั้น ไลท์กลับมีด้านมืดที่หลายคนคาดไม่ถึงเช่นกันว่าแค่อยากให้โลกมีความสุข จำเป็นต้องยอมทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ แถมยังตีสีหน้าเสแสร้งให้คนอื่นๆพลอยหลงเชื่อ เรียกได้ว่า เป็นชายหนุ่มที่ร้ายลึก โฉดได้ใจหลายๆคนไป จนผู้อ่านบางส่วนเลยหันไปเชียร์ L ซึ่งดูภายนอกจะโทรมๆ ตาโหล บุคคลิกดูแปลกๆ แต่ก็มีความฉลาดเป็นล้ำเลิศ ยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม ทำให้เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์อีกคนหนึ่ง และ ก็เพราะการชิงไหวชิง พริบของทั้ง L และไลท์ในรูปแบบต่างๆนี่หล่ะ ที่ทำให้ พล็อตเรื่องนั้นมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน น่าสนุกและน่าลุ้นกันไปทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าบางคนดูรอบแรกอาจยังมึนๆหน่อย แต่ถ้าดูไปหลายๆรอบ ก็จะเข้าใจและจะสนุกไปกับเรื่องมากขึ้น
หนัง อนิเมะ เดธโน้ตจะเป็นการ์ตูนที่มาแรงที่สุดเรื่องหนึ่งในญี่ปุ่น และ ทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แหวกแนว ไม่เหมือนใคร แถมประเด็นในเนื้อเรื่องที่ชวนขบคิด (จนน่าปวดหัว) ก็เลยทำให้เดธโน้ตเป็นการ์ตูนฮิตในหมู่วัยรุ่น และการมาของฉบับภาพยนตร์อนิเมชั่นก็ทำให้กระแสเรื่องนี้แรงขึ้นไปอีก ถึงขนาดบางคนที่ปกติไม่ค่อยสนใจการ์ตูน กลับถามหารวมเล่มหนังสือการ์ตูน มังงะของเดธโน้ตเลยก็มีลึกลับ, สืบสวน ,หักเหลี่ยม, เฉือนคม ส่วนหนึ่งที่หลายคนชอบภาพยนตร์ การ์ตูนเดธโน้ตก็มาจากการที่ เดธโน้ต นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นแนวบู๊ ปล่อยพลัง เหมือนหลายๆเรื่องในโชเน็นจัมป์ แต่กลับเน้นการต่อสู้โดยใช้สติปัญญาไหวพริบของทั้ง2ฝ่าย ซึ่งห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ แถมอุดมการณ์ความถูกต้องก็ยังต่างกัน โดยไลท์มีแนวคิดที่ว่า จะต้องกำจัดคนชั่วให้หมดไปจากโลกนี้ เพื่อจะให้โลกใบนี้มีความสุขที่แท้จริง
ไลท์จึงทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เป็นโลกอุดมคติ และ เป็นพระเจ้าคนใหม่ของโลกนี้ โดยไม่คำนึงถึงต่อบาปบุญคุณโทษที่ตนเอง ได้ฆ่าคน แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนชั่ว และเพื่อให้ความฝันของไลท์เป็นจริง ไลท์จึงจำเป็นต้องกำจัดคนที่คิดจะเข้ามาขัดขวางแผนการของตนด้วย แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนดีก็ตามซึ่งจุดนี้แหละก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่คาแร็คเตอร์ของตัวละครที่ชื่อ ยางามิ ไลท์ น่าสนใจมาก เพราะ ถึงจะมองภายนอกว่า ไลท์เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี เรียนเก่ง แต่ส่วนลึกในจิตใจนั้น ไลท์กลับมีด้านมืดที่หลายคนคาดไม่ถึงเช่นกันว่าแค่อยากให้โลกมีความสุข จำเป็นต้องยอมทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ แถมยังตีสีหน้าเสแสร้งให้คนอื่นๆพลอยหลงเชื่อ เรียกได้ว่า เป็นชายหนุ่มที่ร้ายลึก โฉดได้ใจหลายๆคนไป จนผู้อ่านบางส่วนเลยหันไปเชียร์ L ซึ่งดูภายนอกจะโทรมๆ ตาโหล บุคคลิกดูแปลกๆ แต่ก็มีความฉลาดเป็นล้ำเลิศ ยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม ทำให้เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์อีกคนหนึ่ง และ ก็เพราะการชิงไหวชิง พริบของทั้ง L และไลท์ในรูปแบบต่างๆนี่หล่ะ ที่ทำให้ พล็อตเรื่องนั้นมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน น่าสนุกและน่าลุ้นกันไปทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าบางคนดูรอบแรกอาจยังมึนๆหน่อย แต่ถ้าดูไปหลายๆรอบ ก็จะเข้าใจและจะสนุกไปกับเรื่องมากขึ้น
Back Jack
แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ ภาษา ญี่ปุ่น Burakku Jakku ทับศัพท์จากคำว่า Black Jack ที่เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของ โอซามุ เท็ตซึกะ เรื่องราวเกี่ยวกับหมอที่เรียกชื่อตัวเองว่า แบล็กแจ็ก ใส่เสื้อคลุมสีดำ มีหน้าตาอัปลักษณ์ เป็นหมอเถื่อนที่เก็บค่ารักษาแพง ๆ จากคนรวย และหลายคนคิดว่าเขาเป็นหมอหน้าเลือด ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นสื่อหลายหลายรูปแบบ ได้แก่ อะนิเมะ โอวีเอ ภาพยนตร์การ์ตูนจอเงิน ภาพยนตร์แบบคนแสดง อะนิเมะทางอินเทอร์เน็ต และเกม
Back Jack ภาค อนิเมชั่นที่ฉายทาง ทีวีนั้น จำนวนกว่า 60 ตอน ได้รับรางวัลชนะเลิศ Anime Award ในปี 2006 ในประเทศไทย แบล็กแจ็กได้รับลิขสิทธิ์ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจไป 2 ภาค ซึ่งใช้ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ สำหรับภาค Neo ได้รับลิขสิทธิ์ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บงกช
เนื้อเรื่อง : แบล็กแจ็ก หมอเถื่อนผู้มีความสามารถสูงส่ง แทบจะไม่มีโรคใดบนโลกนี้ที่เขาจะรักษาไม่ได้ เพียงแต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้เขาต้องสูงเอามากๆ เขาเป็นที่รังเกียจของวงการแพทย์ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบการรักษา แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะสอบเอาใบอนุญาตนั้นเลย และยังคงมุ่งหวังรักษาผู้คนต่อไป ขอเพียงให้มีเงินมาจ่ายเขาก็พอ…
ตัวละคร : แบล็กแจ็ก หมอเถื่อนผู้มีฝีมือการรักษาเป็นยอด ชื่อเดิมของเขาคือ ฮาซามะ คุโรโอะ ซึ่งเมื่อแปลแบบขำๆ จะได้ว่า แบล็กแจ็ก ตัวเขาและแม่ได้ประสบพบกับซากของระเบิดที่เก็บไม่หมดในครั้งสงคราม ตัวเขาแยกเป็นชิ้นๆ แต่ได้รับการรักษาโดยหมอฮอนมะ จนร่างกายกลับมาเป็นปกติ แต่เขาก็ต้องฝึกกายภาพบำบัดเพื่อให้เคลื่อนไหวได้ ส่วนแม่ของเขาเหลือร่างกายเพียงครึ่งท่อน และตายจากเขาไป
ทำให้แบล็กแจ็กแค้นกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเก็บระเบิดจากพื้นที่ นั้นๆ ในภาคหลัก ระบุว่ามีทั้งหมด 5 คน แต่ในภาครีเมค ระบุว่ามีแค่ 3 คน ด้วยความที่ตนเองนับถือหมอฮอนมะ จึงได้เจริญรอยตามด้วยการเป็นหมอเหมือนกัน และรักษาโรคด้วยการรีดเงินมหาศาล แต่ในบางครั้งเขากลับรักษาโดยไม่เรียกค่าใช้จ่ายใดๆ หรือเรียกในสิ่งที่ไม่สมกับสิ่งที่เขารักษาเลย ก็มี…
Back Jack ภาค อนิเมชั่นที่ฉายทาง ทีวีนั้น จำนวนกว่า 60 ตอน ได้รับรางวัลชนะเลิศ Anime Award ในปี 2006 ในประเทศไทย แบล็กแจ็กได้รับลิขสิทธิ์ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจไป 2 ภาค ซึ่งใช้ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ สำหรับภาค Neo ได้รับลิขสิทธิ์ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บงกช
เนื้อเรื่อง : แบล็กแจ็ก หมอเถื่อนผู้มีความสามารถสูงส่ง แทบจะไม่มีโรคใดบนโลกนี้ที่เขาจะรักษาไม่ได้ เพียงแต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้เขาต้องสูงเอามากๆ เขาเป็นที่รังเกียจของวงการแพทย์ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบการรักษา แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะสอบเอาใบอนุญาตนั้นเลย และยังคงมุ่งหวังรักษาผู้คนต่อไป ขอเพียงให้มีเงินมาจ่ายเขาก็พอ…
ตัวละคร : แบล็กแจ็ก หมอเถื่อนผู้มีฝีมือการรักษาเป็นยอด ชื่อเดิมของเขาคือ ฮาซามะ คุโรโอะ ซึ่งเมื่อแปลแบบขำๆ จะได้ว่า แบล็กแจ็ก ตัวเขาและแม่ได้ประสบพบกับซากของระเบิดที่เก็บไม่หมดในครั้งสงคราม ตัวเขาแยกเป็นชิ้นๆ แต่ได้รับการรักษาโดยหมอฮอนมะ จนร่างกายกลับมาเป็นปกติ แต่เขาก็ต้องฝึกกายภาพบำบัดเพื่อให้เคลื่อนไหวได้ ส่วนแม่ของเขาเหลือร่างกายเพียงครึ่งท่อน และตายจากเขาไป
ทำให้แบล็กแจ็กแค้นกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเก็บระเบิดจากพื้นที่ นั้นๆ ในภาคหลัก ระบุว่ามีทั้งหมด 5 คน แต่ในภาครีเมค ระบุว่ามีแค่ 3 คน ด้วยความที่ตนเองนับถือหมอฮอนมะ จึงได้เจริญรอยตามด้วยการเป็นหมอเหมือนกัน และรักษาโรคด้วยการรีดเงินมหาศาล แต่ในบางครั้งเขากลับรักษาโดยไม่เรียกค่าใช้จ่ายใดๆ หรือเรียกในสิ่งที่ไม่สมกับสิ่งที่เขารักษาเลย ก็มี…
Keroro
เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก เป็นการ์ตูน ตลก เทพ สาระ แนวโชเน็น คือ การ์ตูนที่มีเด็กวัยรุ่นชายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ภาษาญี่ปุ่น Keroro ภาษาอังกฤษ Sgt. Frog หรือ Sergeant Keroro เป็น มังงะ ซีรี่ แต่งและเขียนโดย มิเนะ โยชิซากิ (Mine Yoshizaki)
เนื้อเรื่อง : กองทัพเคโรนได้เตรียมการยึดครองโลกมนุษย์ด้วยกำลังทหารแต่ในปฏิบัติการวัน แรก สิบโทเคโรโระ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองร้อยเคโรโระที่เข้ามาแทรกซึมบนโลกเป็นแนว หน้าได้ถูกพี่น้องฮินาตะจับตัวได้โดยบังเอิญ เมื่อกองทัพหลักทราบเรื่องจึงถอยทัพกลับ และสั่งให้พวกเคโรโระปฏิบัติการยึดครองโลกไปตามลำพัง
พวกเคโรโระได้ดำเนินการสารพัดวิธี เพื่อหาทางยึดครองโพโคเพน ชื่อดาวโลกที่มนุษย์ต่างดาวในเรื่องเรียก ในฉบับอะนิเมะเปลี่ยน ชื่อมาเป็นเทโคปอง แม้ว่าทุกครั้งจะประสบความล้มเหลวเพราะนิสัยของตัวเคโรโระเองก็ตาม ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องโลกจากอันตราย และมนุษย์ต่างดาวกลุ่มอื่นด้วย
สิบโทเคโระโระ : เคโรโระเป็นหัวหน้าหน่วยจู่โจมพิเศษสังกัดการรุกรานจักรวาลระดับสิบโท มาจากหมู่ดาวแกรมม่าดาวเคราะห์ลำดับที่ 58 ดาวเคโรนมาโลกนี้เพื่อยึดครอง แต่กลับถูกพี่น้องฮินาตะจับตัวมาเป็นคนรับใช้ให้ทำงานบ้านซะนี่เคโรโระเกิด วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ส่วนสูง 75 ซม.น้ำหนัก 5.5 กิโลกรัม
มีร่างกายสีเขียวบนหัว และหน้าท้องมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวห้าแฉก บนหัวสีแดง มีหมวกสีเหลือง ชอบกินอิคินาริดังโงะมาก และมีอาวุธคือเคโระบอล ซึ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย แต่ดันถูกยึดไปซะนี่ ชอบทำอะไรไร้สาระเช่นต่อโมเดลกันพลา (โมเดลกันดั้ม ) และดูหนังการ์ตูนเรื่องกัปตันเกโรโระ และยังได้สร้างฐานบัญชาการอยู่ที่ใต้ดินบ้านฮินาตะอีกด้วย
เวลาสั่งการไม่เคยมีครั้งไหนได้เรื่อง ลูกน้องจึงไม่ค่อยฟังคำสั่งของเขา และนอกจากนั้นเคโรโระยังเรียกทุกคนว่าท่านนำหน้า ยกเว้นลูกน้องตนเอง และเสียงของเคโรโระคือ เคโระเคโระเคโระเคโระ…
เนื้อเรื่อง : กองทัพเคโรนได้เตรียมการยึดครองโลกมนุษย์ด้วยกำลังทหารแต่ในปฏิบัติการวัน แรก สิบโทเคโรโระ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองร้อยเคโรโระที่เข้ามาแทรกซึมบนโลกเป็นแนว หน้าได้ถูกพี่น้องฮินาตะจับตัวได้โดยบังเอิญ เมื่อกองทัพหลักทราบเรื่องจึงถอยทัพกลับ และสั่งให้พวกเคโรโระปฏิบัติการยึดครองโลกไปตามลำพัง
พวกเคโรโระได้ดำเนินการสารพัดวิธี เพื่อหาทางยึดครองโพโคเพน ชื่อดาวโลกที่มนุษย์ต่างดาวในเรื่องเรียก ในฉบับอะนิเมะเปลี่ยน ชื่อมาเป็นเทโคปอง แม้ว่าทุกครั้งจะประสบความล้มเหลวเพราะนิสัยของตัวเคโรโระเองก็ตาม ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องโลกจากอันตราย และมนุษย์ต่างดาวกลุ่มอื่นด้วย
สิบโทเคโระโระ : เคโรโระเป็นหัวหน้าหน่วยจู่โจมพิเศษสังกัดการรุกรานจักรวาลระดับสิบโท มาจากหมู่ดาวแกรมม่าดาวเคราะห์ลำดับที่ 58 ดาวเคโรนมาโลกนี้เพื่อยึดครอง แต่กลับถูกพี่น้องฮินาตะจับตัวมาเป็นคนรับใช้ให้ทำงานบ้านซะนี่เคโรโระเกิด วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ส่วนสูง 75 ซม.น้ำหนัก 5.5 กิโลกรัม
มีร่างกายสีเขียวบนหัว และหน้าท้องมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวห้าแฉก บนหัวสีแดง มีหมวกสีเหลือง ชอบกินอิคินาริดังโงะมาก และมีอาวุธคือเคโระบอล ซึ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย แต่ดันถูกยึดไปซะนี่ ชอบทำอะไรไร้สาระเช่นต่อโมเดลกันพลา (โมเดลกันดั้ม ) และดูหนังการ์ตูนเรื่องกัปตันเกโรโระ และยังได้สร้างฐานบัญชาการอยู่ที่ใต้ดินบ้านฮินาตะอีกด้วย
เวลาสั่งการไม่เคยมีครั้งไหนได้เรื่อง ลูกน้องจึงไม่ค่อยฟังคำสั่งของเขา และนอกจากนั้นเคโรโระยังเรียกทุกคนว่าท่านนำหน้า ยกเว้นลูกน้องตนเอง และเสียงของเคโรโระคือ เคโระเคโระเคโระเคโระ…
Astro Boy
Astro Boy หรือ แอสโตรบอย เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2495 วาดโดยโอซามุ เท็ตซึกะ และถูกสร้างเป็นมังงะฉายทางโทรทัศน์ญี่ปุ่น ระหว่าง พ.ศ. 2506 พ.ศ. 2509 ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ถูกนำไปฉายในสหรัฐอเมริกา 2 ครั้ง ครั้งโดยบริษัท ซินดิเคชัน เมื่อ พ.ศ. 2506 และครั้งที่สองโดยเครือข่ายเอ็นบีซี ระหว่าง พ.ศ. 2509 พ.ศ. 2521
ในปี พ.ศ. 2523 เจ้าหนูปรมาณูถูกนำมาสร้างใหม่ จำนวน 52 ตอน ใช้ชื่อว่า Shin Tetsuwan Atomu (The New Mighty Atom) และ สร้างใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2546 จำนวน 50 ตอน ใช้ชื่อว่า (Astro Boy: Tetsuwan Atomu) ซึ้งเป็นภาคใหม่ที่ยอดเยี่ยมมาก จนได้รับรางวัล Best TV Series from Tokyo International Anime Fair 2004 (รางวัลการ์ตูน ที่เข้าฉายทางทีวี ประเทศญี่ปุ่น ยอดเยี่ยม ปี 2004)
เจ้าหนูปรมาณู Astro แอสโตร คือหุนยนต์ ถูกสร้างโดย ดร.Temma เพื่อมาแทนที่ลูกชายที่สูญเสียไป ด้วยเทคโนโลยี ขั้นสูงและ ผสมผสานด้วย ปัญญาประดิษฐ์ที่พิเศษ มีความสามารถมากมาย เช่น สามารถบินบนท้องฟ้าได้อิสระ แอสโตรบอย อาศัยอยู่ในเมือง Metro City ที่สับสนวุ่นวาย มีความขัดแย้งกันระหว่าง มนุษย์ และ หุนยนต์ ฉนั้น เจ้าหนู จึงต้องพยายาม ดูแล ช้วยเหลือเมืองแห่งนี้ แม้ว่าจะมี คนร้าย ที่ร้ายการ มากหน้าหลายตา ก็ตามที…
ในปี พ.ศ. 2523 เจ้าหนูปรมาณูถูกนำมาสร้างใหม่ จำนวน 52 ตอน ใช้ชื่อว่า Shin Tetsuwan Atomu (The New Mighty Atom) และ สร้างใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2546 จำนวน 50 ตอน ใช้ชื่อว่า (Astro Boy: Tetsuwan Atomu) ซึ้งเป็นภาคใหม่ที่ยอดเยี่ยมมาก จนได้รับรางวัล Best TV Series from Tokyo International Anime Fair 2004 (รางวัลการ์ตูน ที่เข้าฉายทางทีวี ประเทศญี่ปุ่น ยอดเยี่ยม ปี 2004)
เจ้าหนูปรมาณู Astro แอสโตร คือหุนยนต์ ถูกสร้างโดย ดร.Temma เพื่อมาแทนที่ลูกชายที่สูญเสียไป ด้วยเทคโนโลยี ขั้นสูงและ ผสมผสานด้วย ปัญญาประดิษฐ์ที่พิเศษ มีความสามารถมากมาย เช่น สามารถบินบนท้องฟ้าได้อิสระ แอสโตรบอย อาศัยอยู่ในเมือง Metro City ที่สับสนวุ่นวาย มีความขัดแย้งกันระหว่าง มนุษย์ และ หุนยนต์ ฉนั้น เจ้าหนู จึงต้องพยายาม ดูแล ช้วยเหลือเมืองแห่งนี้ แม้ว่าจะมี คนร้าย ที่ร้ายการ มากหน้าหลายตา ก็ตามที…
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)